น้ำมันมะพร้าว ไอเท็มที่ควรมีติดบ้าน
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น บำรุงผิวพรรณตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หรือ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ( Cold Pressed Coconut Oil ) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดด้วยวิธีการบีบ แบไม่ผ่านความร้อนสูงและไม่ผ่านกระบวนการทางเคมี จนได้น้ำมันมะพร้าวลักษณะสีใส เหมือนน้ำเปล่า อุดมไปด้วยวิตามินอี แต่ยังคงกลิ่นมะพร้าวเล็กน้อย โดยองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าวคือกรดไขมันอิ่มตัว ซึ่งกรดไขมันเหล่านี้จะมีขนาดโมเลกุลปานกลาง อย่างเช่น กรดลอริก ปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นได้ถูกน้ำมาใช้ด้านความสวยความงามกันอย่างแพร่หลาย
น้ำมันมะพร้าวมีข้อดีคือ ต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินอี ทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านการเติมออกซิเจน โดยการป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกเติมออกซิเจน ได้ง่าย ๆ ประกอบด้วยสารโทโคไทรอีนอลที่มีอานุภาพสูง วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว มีสารโทโคไทรอีนอล ซึ่งเป็นรูปของวิตามินอีที่มีคุณภาพสูงกว่าสารโทโคเฟอรอลซึ่งอยู่นวิตามินอี ทั่วไป โดยเฉพาะที่มีอยู่ในเครื่องสำอางรักษาผิวถึง 40-50 เท่า ด้วยเหตุนี้ น้ำมันมะพร้าวจึงต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวพรรณนุ่มไม่แตกแห้งเป็นกระ หรือฝ้า แต่ชุ่มชื้นและเนียน ปราศจากริ้วรอย
ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น บำรุงผิวพรรณและเส้นผม
บำรุงผิวพรรณ
น้ำมันมะพร้าวมีสรรพคุณโดดเด่นในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ด้วยคุณสมบัติเด่นคือ ปกป้องผิวพรรณจากแสงแดด ลม ฝุ่นละออง และอุดมด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงและซ่อมแซมเซลล์ ฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรงกลับมามีชีวิตชีวา เช่น วิตามินอี และมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ทั้งเก็บรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวหนังเอาไว้ ทำให้เซลล์ผิวเต่งตึง ช่วยลดริ้วรอยที่มักเป็นปัญหาที่น่ากังวลใจของผู้ที่มีริ้วรอยก่อนวัย และผู้สูงวัยอย่างได้ผล ในสมัยโบราณนับว่าเป็นเคล็ดลับในการดูแลผิวที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักใช้น้ำมันมะพร้าวทาหน้าเพื่อใช้บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสไม่แห้งกร้าน เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น แนะนำว่าหากจะใช้ทาให้ทาเฉพาะตอนกลางคืนหรือช่วงก่อนเข้านอน
ป้องกันผิวไหม้จากแสงแดด
ใครที่จำเป็นต้องออกแดดจัดๆ แล้วมีอาการผิวไหม้แดด เพียงแค่ใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทาให้ทั่วผิวกายหลังอาบน้ำในขณะที่ตัวเปียกหมาดๆ ผิวจะชุ่มชื้นขึ้นพร้อมมีเกราะป้องกันความหมองคล้ำที่เกิดจากแสงแดดด้วย
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวกาย
สำหรับใครที่มีผิวกายแห้งมากๆ จนแตกเป็นลาย หรือ แห้งลอก แนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวในการบำรุงผิวแทนการใช้บอดี้โลชั่น เพราะน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเติมความชุ่มชื้นและคงความชุ่มชื้นได้ยาวนานมากกว่า แถมยังช่วยแก้ปัญหาโรคผิวหนังอื่นๆด้วยการเข้าไปยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้
บำรุงผิวหน้า
สารอนุมูลอิสระ เป็นตัวการอันหนึ่งของการเกิดฝ้า และ กระ วิตามินอีในน้ำมันมะพร้าวจะทำหน้าที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ป้องกันรอยหมองคล้ำ ตามปกติผิวหนังจะสูญเสียความชุ่มชื้น เพราะถูกแดดและลม และมลภาวะต่างๆ น้ำมันมะพร้าวคือสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ จะช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มไม่แห้งกร้าน รอยด่างดำจากสิวจางลง
รักษาสิว
น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก (lauric acid) ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรีย บนใบหน้าป้องกันปัญหาใหญ่อย่างสิวเรื้อรัง ลดการอักเสบของสิว นอกจากนี้ยังมีวิตามิน E และวิตามิน K ช่วยลดรอยแผลเป็นหลังเกิดสิว น้ำมันมะพร้าวยังเหมาะกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย สามารถใช้ได้ทุกวัน
นอกจากรักษาสิวแล้วยังมีผลการศึกษาอีกมากมายพบว่าน้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยรักษาอาการผิดปกติทางผิวหนัง เช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน และหากใช้เป็นประจำน้ำมันมะพร้าวยังช่วยสมานแผลต่างๆ ได้ด้วย
รอยคล้ำใต้ด้วงตา
ผิวบริเวณใต้ดวงตานั้นมีความบอบบางมาก สามารถเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ถุงใต้ตา หรือรอยคล้ำใต้ตาได้ง่าย น้ำมันมะพร้าวก็มีคุณสมบัติบำรุงผิวรอบดวงตาได้เหมือนกับอายครีม จะทำให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มและละเอียดขึ้น ขนตายาวขึ้นอีกด้วย
ป้องกันหน้าท้องแตกลาย
น้ำมันมะพร้าวช่วยเร่งฟื้นฟูผิว โดยเฉพาะคุณแม่ที่เริ่มตั้งครรภ์ หากใช้ทาก่อนหน้าท้องเริ่มขยาย จะช่วยป้องกันการแตกลายของผิวที่ค่อยๆ ยืดขยายตัวโดยใช้น้ำมันมะพร้าวนวดผิวบริเวณที่กำลังขยายเป็นประจำทุกเช้า-เย็น จะช่วยทำให้ผิวบริเวณนี้มีความชุ่มชื้นไม่แห้งแตกลายได้
เช็ดเครื่องสำอาง
น้ำมันมะพร้าวซึ่งมีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถแทรกซึมทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า และการสะสมของสารเคมีจากเครื่องสำอาง ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกระชับ เต่งตึง ผิวหน้าเนียนใส และช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว อย่างได้ผล
ใช้น้ำมันมะพร้าวหยดบนสำลีพอประมาณแล้วเช็ดให้ทั่วใบหน้า สามารถใช้เช็ดเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตา และริมฝีปากหมดเกลี้ยง สำหรับผู้ที่แต่งหน้าสามารถใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดทำความสะอาดได้ 2 รอบเพื่อความสะอาดอย่างหมดจด เมื่อเช็ดด้วยน้ำมันมะพร้าวทั่วทั้งใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที คราบเครื่องสำอางจะหลุดออกหมด ตามด้วยล้างออกด้วยสบู่ หลังจากนั้นซับหน้าให้แห้ง
แก้ปัญหาส้นเท้าแตก
ส้นเท้าที่เคยเนียนนุ่ม อยู่ดีๆ ก็แห้งแตก หยาบกร้าน ไม่น่ามอง เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อากาศเย็น ไม่ทาครีมบำรุง ไม่ใส่รองเท้าในบ้าน ด้วยวิตามินอี เข้มข้นในน้ำมันมะพร้าว จะเข้าสมานผิวเท้าที่แตกแห้งให้มีความชุ่มชื้นไว้
บำรุงเส้นผม
เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นนำมันพืชที่มีคุณสมบัติที่เพิ่มความชุ่มชื้น อีกทั้งมีสารปฏิชีวนะ (จากโนโนลอริน) และสาร antioxidant (จากสารโทโคทรินนอลในวิตามินอี) จึงมีส่วนทำให้ผมงาม
น้ำมันมะพร้าวมีคุณประโยชน์ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมได้ดี ช่วยให้ผมที่แห้งเสียง มีสุขภาพผมที่ดีขึ้น ใช้หมักผมให้นุ่มลื่นขึ้น เนื่องจากในน้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก ซึ่งเป็นไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ มีความสามารถในการจับตัวกับโปรตีนในเส้นผมสูงเพราะมีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ภายในเส้นผมได้ดี และยังช่วยลดผมหงอก ผมร่วง ช่วยให้ผมนุ่มสลวย ดูดกดำขึ้น
และเนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันพืชที่มีคุณสมบัติเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizer) อีกทั้งยังมีสารปฏิชีวนะ (จากโมโนลอริน) และสาร antioxidant (จากสารโทโคทรินอลในวิตามินอี) จึงมีส่วนทำให้ผมงาม จากคุณสมบัติดังต่อไปนี้ :
ช่วยปรับสภาพของผม : น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมัน hair conditioner ที่ช่วยทำให้ผมนุ่มดำเป็นเงางาม เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมการเจริญของเส้นผม
ช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะ : น้ำมันมะพร้าวช่วยรักษาสุขภาพของหนังศีรษะทั้งนี้ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีสารปฏิชีวนะที่คอยทำลายเชื้อโรค หนังศีรษะจึงไม่มีรังแค และมีวิตามินอีที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ หนังศีรษะจึงไม่เหี่ยวย่นแต่มีสุขภาพดี
ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี : เส้นผมประกอบด้วยส่วนนอก (culticle) ที่ทำหน้าที่ หุ้มส่วนใน (cortex) หากส่วนนอกอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด เส้นผมก็จะปกติ มีความยืดหยุ่น (elasticity) ทนทานต่อการบิดงอและมีความเหนียว ส่วนในซึ่งประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่า เคอราทิน (keratin) ที่มีประกอบด้วยเส้นเล็ก ๆ มัดรวมกัน โปรตีนของเส้นผมจะสูญเสียหรือสลายตัวไปตามอายุขัย แต่อาจเร็วขึ้นจากการไม่รักษาผมให้ดี และการทำร้ายเส้นผม เช่น จากการดัดผม การย้อมผมด้วยน้ำยาเคมี แม้กระทั่งการหวีผมที่ใช้หวีที่คม น้ำมันมะพร้าวจึงช่วยลดปริมาณการสูญเสียของเส้นผม เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติยึดเกาะ (affinity) กับโปรตีนของเส้นผมได้ดี